หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index แกว่งตัวผันผวน โดยในช่วงเช้าปรับลงพอสมควร ก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงบ่ายอย่างหนาแน่น หนุนให้ดัชนีฟื้นตัวปิดบวก 13.59 จุด ที่ระดับ 1,088.18 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท หนุนโดยหุ้นขนาดใหญ่ที่ฟื้นตัวอย่างค่อนข้างกระจาย สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นบางลงเหลือเพียง 347 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 411 ล้านบาท (และ Long Index Futures ต่อเนื่องอีก 1.65 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ คาดว่า SET Index จะฟื้นตัวแรงสู่กรอบ 1,140–1,160 จุด หลังทรัมป์ประกาศเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าออกไป 90 วัน โดยเหลือเพียง 10% สำหรับประเทศที่ไม่ตอบโต้ แต่ยังคงภาษีแคนาดา–เม็กซิโกที่ 25% และเตรียมเก็บภาษีจีนเพิ่มขึ้นเป็น 125% ส่งผลให้เม็ดเงินที่ไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหนาแน่น จากความกังวลโอกาสเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ลดลง
ล่าสุดตลาดปรับลดความน่าจะเป็นที่ FED จะลดดอกเบี้ยในการประชุมต้นเดือน พ.ค. เหลือ 24% แต่ยังมองโอกาสลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ที่ 68%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม: การเจรจาของรัฐบาลไทยและสหรัฐฯ ในช่วง 90 วันข้างหน้า ว่าจะสามารถปรับลดอัตราภาษีสินค้าลงถาวรได้มากน้อยเพียงใด หากสามารถคงอัตราภาษีที่ 10% หรือขยับขึ้นเป็นราว 20% (จากเดิม 36%) ได้ การเติบโตของ GDP และกำไร บจ. จะดีกว่าสมมติฐานปัจจุบัน โดยมีโอกาสที่ SET Target จะขยับขึ้นจาก 1,180 จุด สู่ระดับราว 1,250–1,300 จุด
กลุ่มที่น่าสนใจ: Global และ Cyclical Play ที่ปรับตัวลงแรงก่อนหน้า เช่น พลังงาน ปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ อาหารสัตว์เลี้ยง ยาง ธนาคาร คาดว่าจะฟื้นตัวแรงในวันนี้ ส่วนกลุ่ม Defensive / Consumer Staple / ภาคบริการ คาดว่ายังสามารถปรับตัวขึ้นได้เช่นกัน แต่จะไม่ร้อนแรงเท่า
กลยุทธ์ เน้น Selective Buy หุ้น Domestic ที่มีแนวโน้มกำไร 1Q25–ปี 2025 แข็งแกร่ง และกระทบจำกัดต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัว
หุ้นเด่นเดือนเมษายน
BA, BBL, CPF, HMPRO, OSP
FSSIA Portfolio: BA, BBL, BTG, CPALL, MTC, NSL, PR9, SEAFCO, SHR
หุ้นเด่นวันนี้: AMATA
แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 34 บาท
คาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวแรงจาก Sentiment บวกจากการเลื่อนเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 90 วันให้กับกว่า 75 ประเทศ คาดช่วยลดความกังวลต่อกลุ่มนิคมฯ
สิ้นปี 2024 บริษัทมี Backlog 2.1 หมื่นล้านบาท (ไทย 1.9 หมื่นล้านบาท, เวียดนาม 1.8 พันล้านบาท) โดยคาดว่าราว 50% ของ Backlog ในไทยจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2025 ซึ่ง Secure ประมาณการรายได้รวมของปีนี้แล้วกว่า 60%
คงประมาณการกำไรปี 2025 ที่ 2.8 พันล้านบาท +12% y-y ราคาหุ้นเทรดที่ PER ปี 2025 เพียง 5 เท่า
แนวรับ 12.00 // 11.20 บาท แนวต้าน 13.10 // 14.00 บาท
Fund Flow
วานนี้ กระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกจากภูมิภาคสุทธิหนาแน่นต่อเนื่องอีก 1,485 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ประเทศละ 746–761 ล้านดอลลาร์ ส่วนอาเซียนเริ่มมีเม็ดเงินพลิกมาไหลเข้าเล็กน้อย โดยไทยและเวียดนามมีเม็ดเงินไหลเข้าประเทศละราว 10–12 ล้านดอลลาร์
แนวโน้ม: กระแสเงินทุนคาดจะพลิกกลับมาไหลเข้าอย่างหนาแน่น หลังทรัมป์ประกาศลดภาษีนำเข้าลงเหลือ 10% เป็นเวลา 90 วัน (ยกเว้นจีน แคนาดา เม็กซิโก)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) SIRIPresales 1Q25 อยู่ที่ 1.34 หมื่นล้านบาท +31% q-q, +40% y-y สูงกว่าเป้าหมายบริษัทPresales คอนโดโตแรง +162% q-q, +131% y-y จากการเปิด 8 โครงการใหม่ Take up rate สูงถึง 52%คาดกำไรสุทธิ 1Q25 จะลดลง 50–60% q-q และ y-y อยู่ที่ 500–600 ล้านบาท จากยอดโอนที่ลดลงคงเป้าหมายกำไรปี 2025 ที่ 5.2 พันล้านบาท ทรงตัว y-y หากยอดโอนลดลง 30% จะมี Downside ต่อกำไรราว 12%เป้าหมายราคา 1.90 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
(+) NEOคาดกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 245 ล้านบาท +2% q-q, -8.4% y-y ดีกว่าคาดอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น ค่าดำเนินงานลดลง ต้นทุนวัตถุดิบผ่านจุดพีคคาดกำไร 2Q25 ดีขึ้นต่อเนื่อง คงประมาณการกำไรปี 2025 ที่ 970 ล้านบาทเป้าหมายราคา 49.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) EPGมีโรงงานผลิตฉนวนในสหรัฐฯ ใช้วัตถุดิบนำเข้าจากไทยตลาด Aeroflex ในสหรัฐฯ เป็น Premium ราคาขายสูงคาดทยอยปรับราคาขายได้ ธุรกิจ Auto เจอความยากลำบากก่อนมีประเด็นภาษีอยู่แล้วธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในประเทศเริ่มฟื้นในช่วง 2M25มีเงินสดในมือกว่า 0.62 บาท/หุ้น Dividend Yield 5%, Book Value สิ้นปี 2024 อยู่ที่ 4.40 บาท/หุ้น แนะนำ “ซื้อ”