THG เพิ่มทุนชัดเจน เสริมสภาพคล่อง-ลดภาระหนี้

            หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด มองบวกขึ้นต่อ THG หลังมีความชัดเจนในการเพิ่มทุน

เรามีมุมมองบวกมากขึ้นต่อ THG เนื่องจาก 1) การเพิ่มทุนมีความชัดเจน 2) ราคาเพิ่มทุน RO มี Price dilution ใกล้เคียงกับ share dilution ที่ราว 53% (หากใช้สิทธิเต็มจำนวน) ซึ่งจูงใจให้ผู้ถือหุ้นใช้สิทธิ และ 3) คาดว่า IBD/Equity จะลดลงจาก 1.2 เท่า เหลือราว 0.44 เท่า หากบริษัทนำเงินบางส่วนไปชำระคืนเงินกู้ ส่งผลให้มีสภาพคล่องดีขึ้น

• ประเด็นสำคัญ  บอร์ดบริษัทฯ แจ้งมติที่ประชุมเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2568 โดยมีมติสำคัญดังนี้:

ลดทุนจดทะเบียน 84.75 ล้านบาท จาก 932.32 ล้านบาท เป็น 847.47 ล้านบาท โดยตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ชำระจำนวน 84.75 ล้านหุ้น (พาร์หุ้นละ 1 บาท)

เพิ่มทุนจดทะเบียน 941.69 ล้านบาท เป็น 1,789.15 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 941.69 ล้านหุ้น (พาร์หุ้นละ 1 บาท) โดยแบ่งเป็น:

2.1 จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 430.50 ล้านหุ้น เสนอขายให้บุคคลเฉพาะเจาะจง (PP) ได้แก่ บมจ.โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ที่ราคาหุ้นละ 8.65 บาท รวมมูลค่าไม่เกิน 3,723.82 ล้านบาท (ปัจจุบัน RAM ถือหุ้น THG จำนวน 208.38 ล้านหุ้น หรือ 24.59%)

2.2 จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 511.19 ล้านหุ้น เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ตามสัดส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นเพิ่มทุน ในราคาหุ้นละ 5.00 บาท

ขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท (Whitewash) เนื่องจากหลังจากการเพิ่มทุน PP แล้ว RAM จะถือหุ้นใน THG เพิ่มเป็น 638.88 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 49.99% ซึ่งเกิน 25% และต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด

การเพิ่มทุน PP และ RO ครั้งนี้จะได้รับเงินสูงสุด 6,280 ล้านบาท (PP 3,724 ล้านบาท และ RO 2,556 ล้านบาท) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชำระหนี้ ลดภาระดอกเบี้ย และเสริมสภาพคล่อง

กำหนด XM วันที่ 23 เม.ย., ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 9 มิ.ย., และเปิดจองซื้อหุ้น PP วันที่ 29-30 ก.ค.

XR วันที่ 5 ส.ค., เปิดจองซื้อหุ้น RO วันที่ 22-28 ส.ค.

• ความเห็นและคำแนะนำ

เรามีมุมมองบวกมากขึ้นต่อ THG เนื่องจาก: การเพิ่มทุนมีความชัดเจนราคาเพิ่มทุน RO มี Price dilution ใกล้เคียงกับ share dilution ที่ราว 53% ซึ่งจูงใจให้ผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิ

คาดว่า IBD/Equity จะลดลงจาก 1.2 เท่า เหลือราว 0.44 เท่า หาก THG นำเงินเพิ่มทุนประมาณ 5,926 ล้านบาท ไปชำระเงินกู้สถาบันการเงินบางส่วน (ณ สิ้นปี 2567 บริษัทมีหนี้สินที่มีดอกเบี้ยรวม 10,061 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้สถาบันการเงิน 8,091 ล้านบาท, หุ้นกู้ 1,619 ล้านบาท และหนี้สินสัญญาเช่ารวม 352 ล้านบาท)

ทั้งนี้ การเพิ่มทุนครั้งนี้ต้องได้รับเสียงเห็นชอบ 75% ของผู้มีสิทธิออกเสียงที่มาประชุม โดย RAM จะไม่มีสิทธิออกเสียงในวาระเพิ่มทุน PP และ Whitewash
หลังการเพิ่มทุน PP และ RO ในส่วนของ RAM จะทำให้ RAM ถือหุ้น THG ทั้งสิ้น 894 ล้านหุ้น กรณีที่ RO ใช้สิทธิเต็มจำนวน RAM จะมีสัดส่วนถือหุ้น THG ที่ 49.99% (เดิม 24.59%) ทั้งนี้ หากครอบครัววนาสิน (ถือหุ้นรวมราว 10%) ไม่ใช้สิทธิเพิ่มทุน RO คาดว่า RAM จะถือหุ้น THG เพิ่มเป็น 53.5% (ภายใต้สมมติฐานว่าไม่มีผู้ถือหุ้นรายย่อยอื่นเพิ่มทุนเกินกว่าสิทธิ) เรามองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ RAM จะถือหุ้นเกิน 50% ใน THG

เราคาดว่าการเพิ่มทุน PP ของ RAM ครั้งนี้ อาจทำให้ RAM ต้องขอความเห็นจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค) โดยหลังการเพิ่มทุนสำเร็จ คาดว่ากลุ่ม RAM จะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 10,229 ล้านบาท เป็นเกือบ 20,000 ล้านบาท (ภายใต้สมมติฐานว่ามีการรวมงบการเงินของ THG) และมีจำนวนเตียง (Structure beds) รวมทั้งสิ้นกว่า 6,800 เตียง ครอบคลุมทั่วประเทศ ถือเป็นเครือข่ายโรงพยาบาลที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก BDMS (ซึ่งมีเตียงรวมกว่า 8,900 เตียง)

เรา ยังไม่ให้คำแนะนำ สำหรับ THG (เดิม Reduce) เนื่องจากอยู่ระหว่างการทบทวนประมาณการของบริษัทและรวมผลของการเพิ่มทุนครั้งนี้ ในเบื้องต้น เรามองว่าหากการเพิ่มทุนครั้งนี้สำเร็จ จะช่วยลดความกังวลต่อฐานะการเงินของบริษัท และเพิ่มความเชื่อมั่นต่อโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่หลังการเพิ่มทุน

หุ้นเด่นในกลุ่มการแพทย์ เราเลือก BDMS (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 37.50 บาท) และ BCH (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 19 บาท) โดย BDMS มีความน่าสนใจจากตลาดเป้าหมายที่มีความยืดหยุ่นและกระจายตัว รวมถึงคาดว่าปีนี้กำไรเติบโต 10% YoY ซึ่งเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ส่วน BCH น่าสนใจจากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยคาดว่าปีนี้กำไรเติบโต 29% YoY ซึ่งเด่นสุดในกลุ่ม (เทียบกับคาดการณ์กำไรกลุ่มที่เติบโต 10% YoY)