[Vision Exclusive] สารัชถ์ เก็บหุ้น GULF | PTT ซื้อคืนทะลุ 4พันล.

          หุ้นวิชั่น – ตลาดหุ้นไทยไม่รอดร่วง 50.62 จุด รับแรงกระแทกผลกระทบภาษีสหรัฐ  นักวิเคราะห์ชี้ มีโอกาสรีบาวน์ช่วงสั้น มีแนวต้าน 1,140 จุด และแนวรับสำคัญที่ 1,000 จุด มองราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ในระดับ “ถูก” เป็นจังหวะทยอยสะสมสำหรับนักลงทุนระยะยาวเกิน 1 ปี  ส่วนForced Sell มีไม่มาก “สารัชถ์ รัตนาวะดี” ซีอีโอ GULF เข้าซื้อหุ้น GULF เพิ่ม 35.5 ล้านหุ้น มูลค่ารวมกว่า 1.6 พันล้านบาท ในวันที่ 3-4 เม.ย. 2568 ราคา 46.49 – 48.75 บาทต่อหุ้น  ด้าน PTT ไม่หวั่นวานนี้ทุ่มอีก 492 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืนแล้ว 133.86ล้านหุ้น มูลค่ารวมที่ซื้อคืนทั้งสิ้น 4,271ล้านบาท

          บรรยากาศการซื้อขายหุ้นไทยวันแรก หลังจากที่จีนตอบโต้มาตรการภาษีสหรัฐ  มีแรงขายออกมาอย่างหนักตั้งแต่เปิดตลาด ดัชนีหุ้นผันผวนในแดนลบทั้งวัน จนกระทั้งมาปิดตลาดที่ 1,074.59 จุด ลบ 50.62 จุด หรือคิดเป็น 4.50% มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 66,714 ล้านบาท

          นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  เปิดเผยว่า มาตรการที่ประกาศใช้เมื่อวานนี้ คาดว่าช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดทุนไทยได้ในระดับหนึ่ง ตลาดหุ้นไทยลดลง 4.50% ซึ่งน้อยกว่าหลายตลาดในภูมิภาค โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการปรับตัวในวันก่อนหน้า

          อย่างไรก็ตาม ความผันผวนและความไม่แน่นอนจะยังคงมีอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้ผู้ลงทุนติดตามข่าวสารและพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน”​​​​​​​

          นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้  มีสาเหตุหลักมาจากความกังวลเรื่องการขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งกระทบต่อภาคการส่งออกไทยที่ถือเป็นสัดส่วนสำคัญของ GDP จึงส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนแต่เชื่อว่าหลายๆ ประเทศก็มีการเตรียมความพร้อมรับมือกันมาบ้างในช่วงที่ผ่านมา เว้นแต่จีน ที่ยังมีความไม่แน่นอนด้วย ดังนั้นจึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

          อย่างไรก็ตาม บล.กรุงศรีประเมินว่า มีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะเกิดการรีบาวน์ในระยะสั้นภายหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยให้แนวต้านที่ระดับ 1,140 จุด ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,000 จุด ซึ่งถือเป็นระดับที่นักลงทุนสามารถ “เก็งกำไร” ได้ในช่วงสั้น

          สำหรับประเด็นที่มีความกังวลเรื่อง Forced Sell นั้น นายเผดิมภพระบุว่า ปัจจุบันสถานการณ์ดังกล่าวเริ่มคลี่คลายลง โดยโบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมาร์จิ้นมากขึ้น ขณะที่ลูกค้านักลงทุนเองก็มีการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม ส่งผลให้การถูกบังคับขายหลักทรัพย์ (Forced Sell) ในช่วงนี้มีโอกาสเกิดขึ้นในระดับที่ต่ำกว่าช่วงก่อนหน้า ในด้านกลยุทธ์การลงทุน นายเผดิมภพแนะนำว่า สำหรับนักลงทุน ระยะสั้น ยังสามารถใช้จังหวะนี้ในการเก็งกำไรจากจังหวะรีบาวน์ของตลาดได้ ส่วน นักลงทุนระยะยาว ที่มีมุมมองเกินกว่า 1 ปี ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน เพราะราคาหุ้นโดยรวม ณ ขณะนี้ถือว่า “ถูก” ตามหลักการวิเคราะห์เชิงมูลค่าทุกทฤษฎี

          ส่วนเรื่องที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor, Dynamic Price Band และห้ามขายชอร์ต เป็นการชั่วคราว มองว่าเป็นเรื่องที่ดี ส่งผลบวกทางจิตวิทยา ที่จะทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นต่อตลาดหลักทรัพย์ออกมารับมืออย่างรวดเร็วก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ เป็นความเชื่อมั่นที่มีมากขึ้นต่อตลาดหลักทรัพย์

รัฐรุกเจรจาสงครามการค้า

          ส่วนภาครัฐ สำหรับความคืบหน้าในเรื่องมาตรการ Reciprocal Tariff และ liberation day เมื่อวันที่ 2 เมษายน ซึ่งถือเป็นการกำหนดกติกาการค้าโลกใหม่ สร้างผลสะเทือนต่อระบบเศรษฐกิจของโลก รัฐบาลติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่งตั้งคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เมื่อ 6 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีท่านปลัดกระทรวงพาณิชย์ฯ เป็นประธาน , อาจารย์พันศักดิ์ วิญญรัตน์ , ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ เป็นที่ปรึกษา เพื่อศึกษารายละเอียด หารือ และกำหนดแนวทางร่วมกับภาครัฐและเอกชนมาโดยตลอด

          นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เปิดเผยว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การวางยุทธศาสตร์และมาตรการต่างๆ คือต้อง “รู้เขา” และ “รู้เรา” วันนี้เห็นนอกจากรูปแบบการตอบโต้ และรับมือต่อนโยบาย Trump จากประเทศต่างๆ มีอะไรบ้าง และยังได้เห็นปฏิกิริยาการเคลื่อนไหวตอบโต้ของประชาชนภายในสหรัฐอเมริกาที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้อีกด้วยยุทธศาสตร์และกระบวนการทำงานของรัฐบาลต้องทั้ง ‘เร็ว และ แม่นยำ’ #เร็ว : ขอย้ำว่ามีการจัดตั้งคณะทำงานมาตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งตั้งก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งเป็นทางการเมื่อ 20 มกราคม และได้ประสานงานกับฝั่งทางสหรัฐอเมริกามาตลอด  #แม่นยำ : มีการเตรียมข้อมูลที่ครบและรอบด้าน มีการติดตามความเคลื่อนไหวจากทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบเพื่อประเมินและหาข้อสรุปในการเจรจาที่จะมีต่อไปจากนี้

          นอกจากนี้ เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดผลกระทบเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ จึงต้องการเตรียมมาตรการรับมือและเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะในระยะสั้น ส่วนในระยะยาวจะต้องมองถึงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ และการหาตลาดใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เศรษฐกิจไทยไปต่อได้อย่างเข้มแข็ง

          ขณะเดียวกัน มีรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือ ก.ล.ต. พบ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF รายงานการทำรายการซื้อหุ้นของบริษัทในวันที่ 3 และ 4 เมษายน 2568 จำนวนรวมทั้งสิ้น 35,510,700 หุ้น ที่ราคาซื้อเฉลี่ยระหว่าง 46.49 – 48.75 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1,652.05 ล้านบาท โดยเป็นการเข้าซื้อด้วยวิธีการผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ

          ด้าน PTT รายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน จากจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ 470,000,000 หุ้น  หรือ1.65 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว  วันที่ 8 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน 16,300,000 หุ้น ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด 30.25 บาท ราคาต่ำสุด 30.00บาท  มีมูลค่ารวม : 492,075,000.00 บาท จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น 133,860,000 หุ้น รวมมูลค่ารวมที่ซื้อคืนทั้งสิ้น 4,271,970,000.00 บาท

รายงาน : ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร บรรณาธิการข่าว Hoonvision