[Vision Exclusive] TOP จ่อขายสินทรัพย์-ลดก่อหนี้

          TOP ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025E ที่ 9.8 พันล้านบาท  และแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายที่ 36 บาท อิง 2025E PBV ที่ 0.47x (เท่ากับ -2.25SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลัง 5 ปี) เนื่องจาก มองว่าราคาปัจจุบันได้รับรู้ปัจจัยเสี่ยงจากโครงการ CFP ไปมากแล้ว ในขณะที่สะท้อนอัตราตอบแทนเงินปันผลที่แข็งแกร่งที่ประมาณ 7%

          นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) “TOP” ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2568 ไทยออยล์ได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา EPC (Engineering Procurement and Construction ) ซึ่งเป็นสัญญาสำหรับการออกแบบวิศวกรรม จัดหาและการก่อสร้าง สำหรับโครงการพลังงานสะอาด(Clean Fuel Project) “CFP” กับกลุ่มกิจการร่วมค้าระหว่าง PSS Netherland B.V.และกลุ่ม unincorporated joint venture ของบริษัท Samsung E&A(Thailand) Co.Ltd บริษัท Petrofac South East Asia Pte และบริษัท Saipem Singapore Pte Ltd ซึ่งเป็นผู้รับเหมาหลัก โดยมีผลทันที เนื่องจากผู้รับเหมาไม่ปฏิบัติตามภาระผูกพันในสัญญา EPC

          ทั้งนี้ ไทยออยล์ ได้เข้าทำสัญญาสำหรับการออกแบบวิศวกรรม จัดหาและการก่อสร้าง EPC สำหรับโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project)หรือ “CFP” เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ดังกล่าวข้างต้น

            TOP ยืนยันว่าการใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา EPC จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินโครงการ CFP โดยไทยออยล์ ได้มีการจัดทำแผนงานเพื่อดำเนินโครงการ CFP ให้แล้วเสร็จในไตรมาส 3 ของปี 2571 และได้มีการจ้างที่ปรึกษาที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เพื่อเสริมสร้างการบริหารจัดการโครงการด้านวิศวกรรม การจัดหาและการก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพ และให้การสนับสนุนไทยออยล์ ในการบริหารจัดการโครงการในแต่ละระยะจนแล้วเสร็จ

            ทั้งนี้งานก่อสร้างโครงการ CFP จะดำเนินการต่อโดยผู้รับเหมาที่มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่เพื่อให้การดำเนินงานก่อสร้างโครงการ CFP แล้วเสร็จสมบูรณ์ตามแผนงานของไทยออยล์

          “บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จ โดยคำนึงประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯและผู้ถือหุ้น รวมถึงผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง” นายบัณฑิตกล่าว 

GPSCไม่กระทบลงทุน

          นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) GPSC แจ้งว่า    ตามที่ GPSC ได้รายงานความคืบหน้าการเข้าซื้อหน่วยผลิตไฟฟ้า Energy Recovery Unit (“ERU”) จากบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)  หรือ TOP เพื่อเข้าลงทุนดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 และ TOP ได้มีหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 เรื่อง แจ้งการบอกเลิกสัญญาสำหรับการออกแบบวิศวกรรม การจัดหา และการก่อสร้าง เกี่ยวกับโครงการ CFP และคาดการณ์งานก่อสร้างแล้วเสร็จของโครงการ CFP นั้น

          ทั้งนี้  การบอกเลิกสัญญาสำหรับการออกแบบวิศวกรรม การจัดหา และการก่อสร้างเกี่ยวกับโครงการ CFP ไม่มีผลกระทบต่อผลตอบแทนการลงทุนของ GPSC  ภายใต้สัญญาต่างๆ ของโครงการ ERU โดยการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ ERU จะเกิดขึ้นเมื่อการก่อสร้างโครงการเสร็จสิ้นและได้รับหนังสือรับรองผลงานการก่อสร้าง (Provisional Acceptance Certificate : PAC) เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเป็นช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2572

          อย่างไรก็ตาม GPSC อยู่ระหว่างการหารือกับ TOP และจะดำเนินการให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ตามประกาศรายการที่เกี่ยวโยงกันและ/หรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยหากมีความคืบหน้าประการใด จะแจ้งให้ทราบต่อไป

TOP ฟื้นตัวชัด  

          บล.ดาโอระบุว่า  มีมุมมองเป็นกลางจากข่าวนี้ซึ่งมองว่าการยกเลิกสัญญา EPC กับผู้รับเหมาเดิมเป็นไปตามแผนของบริษัทอยู่แล้ว ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับทางบริษัทเพิ่มเติม TOP แจ้งว่า ยังอยู่ในกระบวนการจัดหาผู้รับเหมา EPC รายใหม่ ซึ่งบริษัทมองว่ายังอยู่ในกรอบเวลา 3Q25E ที่วางแผนไว้

          นอกจากนี้ บริษัทแจ้งว่ายังคงแผนในการลดการก่อหนี้ (deleveraging) ซึ่งอาจพิจารณาถึงการออก perpetual bond และ/หรือการขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก สำหรับภาพระยะสั้น ประเมินว่า TOP จะเห็นกำไรที่ฟื้นตัว QoQ หลักๆจากการรับรู้กำไรสต๊อก (stock gain net of NRV) และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX gain)  แต่อาจจะ stock loss (net of NRV) ได้ใน 2Q25E ตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัว

          เบื้องต้นยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025E ที่ 9.8 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY) และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายที่ 36.00 บาท อิง 2025E PBV ที่ 0.47x (เท่ากับ -2.25SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลัง 5 ปี) เนื่องจาก มองว่าราคาปัจจุบันได้รับรู้ปัจจัยเสี่ยงจากโครงการ CFP ไปมากแล้วในขณะที่สะท้อนอัตราตอบแทนเงินปันผลที่แข็งแกร่งที่ประมาณ 7%

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

MEDEZE เข้าถือหุ้น 10% ใน Cordlife Group Limited ในตลาดหุ้นสิงคโปร์

MEDEZE เข้าถือหุ้น 10% ใน Cordlife Group Limited ในตลาดหุ้นสิงคโปร์

TCC โชว์กำไร Q1/68 ที่ 10.2 ล. อวดยอดขายโค้งแรก 311 ล.

TCC โชว์กำไร Q1/68 ที่ 10.2 ล. อวดยอดขายโค้งแรก 311 ล.

SAK พอร์ตสินเชื่อพุ่ง 14,428 ลบ.หนุนกำไรโต 15.1%

SAK พอร์ตสินเชื่อพุ่ง 14,428 ลบ.หนุนกำไรโต 15.1%

MAJOR จับจังหวะฟื้นเด่น ล็อคเป้า 15.60 บ.

MAJOR จับจังหวะฟื้นเด่น ล็อคเป้า 15.60 บ.

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด