[Vision Exclusive] WHA เชื่อลูกค้ายังอยู่ Q1 ขายแล้วพันไร่

           หุ้นวิชั่น – ผู้บริหารชี้  WHA ระยะสั้นไร้ผลกระทบ   หลังทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าไทยสูง 36% มองยังปรับขึ้นน้อยกว่าประเทศอื่นในอาเซียน ขณะที่ในไตรมาสแรก 2568 เซ็นสัญญาซื้อขายที่ดิน (LOI) ไปแล้วกว่า 1,000 ไร่ และเตรียมรอโอนกรรมสิทธิ์อีกหลายราย  มั่นใจรายได้และส่วนแบ่งกำไรปีนี้มาตามนัด ขณะที่ บล.หยวนต้ามอง ไทยจะเสียภาษีเป็นสูงกว่าอินโดนีเซีย 4% และ มาเลเซีย 12%  ทำให้แรงดึงดูดการตั้งฐานการผลิตในไทยลดลง     

           นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (WHA) เปิดเผยว่า  ยังไม่เห็นถึงผลกระทบที่จะมีลูกค้าชะลอย้ายฐานการผลิตในระยะสั้นนี้ จากกรณีที่ประเทศไทยถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่ระดับ 36% จากสหรัฐฯ เนื่องด้วยในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการเจรจากับทางลูกค้าถึงเรื่องดังกล่าวไปพอสมควร ซึ่งลูกค้าให้ข้อมูลว่า หากมีการเรียกเก็บภาษีไทยสูงกว่าประเทศอื่น ก็อาจไม่ย้ายฐานการผลิตมา แต่ผลที่ออกมา ไทยถือว่ายังน้อยกว่าประเทศอื่นในอาเซียน

           “ไทยถือว่ายังโดนเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐน้อยกว่าประเทศอื่น อย่าง จีน โดนรวม 54%, เวียดนาม 46% ส่วนไทย โดน 36% ส่วนตัวมองว่า ยังโอเคอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการคุยกับลูกค้าตลอดถึงประเด็นการเรียกเก็บภาษีของสหรัฐ ถ้าหากไทยโดนสูงกว่าคนอื่น เขาก็อาจไม่ย้ายฐานการผลิตมานางสาวจรีพร กล่าว

           อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นยืนยันว่า ไม่กระทบกับธุรกิจ โดยที่ผ่านมามีการเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดิน (LOI) ไปแล้วรวมกว่า 1,000 ไร่ และเตรียมรอการโอนกรรมสิทธิ์อีกหลายราย แต่ระยะยาวยังต้องรอติดตามกันต่อ โดยหลังจากนี้ WHA  ก็เตรียมทยอยเจรจากับลูกค้าเพิ่มเติม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อไป

           ทั้งนี้ WHA มั่นใจรายได้และส่วนแบ่งกำไรในปี 2568 ยังเติบโตกว่า 2 หมื่นล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ และคงอัตรากำไร EBITDA Margin มากกว่า 45% โดยมองแนวโน้มไตรมาส 1/2568 เติบโตต่อ จากความสามารถเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินไปแล้วหลายไร่ และเตรียมรอโอนกรรมสิทธิ์

           ด้านบล.หยวนต้า มองกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม จะได้รับกระทบจากรัฐบาลสหรัฐ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยเป็น 36% แม้ว่าภาษีนำเข้าของไทยจะน้อยกว่าเวียดนาม 10% แต่อย่างไรก็ตาม ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ของไทยจะกลายเป็นสูงกว่าอินโดนีเซีย 4% และมาเลเซีย 12%  คาดจะเห็นลูกค้าชะลอการทำสัญญาซื้อขาย เพื่อดูความชัดเจนอีกที หลังการเจรจาก่อนที่จะเริ่มบังคับใช้ ในวันที่ 9 เม.ย.นี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อดีมานด์ที่ดินนิคมฯ ในไทย  ทั้งนี้ แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมไปก่อน    

รายงานโดย : พชรธร ภูมิคำ รองบรรณาธิการข่าว Hoonvision

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

CPALL ลุยความยั่งยืน

CPALL ลุยความยั่งยืน

SUSCO บอร์ดไฟเขียว รุกสถานีแบตเตอรี่รถ EV

SUSCO บอร์ดไฟเขียว รุกสถานีแบตเตอรี่รถ EV

DELTA ทุ่ม 506 ลบ. ซื้อเครื่องจักร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

DELTA ทุ่ม 506 ลบ. ซื้อเครื่องจักร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

DELTA กำไรโค้งแรก 5.4 พันล. - โตแรง 154%

DELTA กำไรโค้งแรก 5.4 พันล. - โตแรง 154%

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด