หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดว่า SET Index มีโอกาสแกว่งตัวในแนวทาง Sideways to Sideways Up โดยทางเทคนิคมีสัญญาณบวกหลังยืนเหนือเส้น EMA25 ได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 เดือน ขณะที่ตลาดยังคงจับตาและคาดหวังเชิงบวกต่อพัฒนาการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ และประเทศต่างๆ อย่างไรก็ตามกรอบการบวกระยะสั้นคาดว่าจะแคบลงจากสัปดาห์ก่อน โดยมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามหลายตัว เช่น GDP 1Q25, เงินเฟ้อ PCE และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเมษายนของสหรัฐฯ, ตัวเลข PMI เดือนเมษายนของจีน, และการประชุม BoJ เป็นต้น ขณะที่ฝั่งไทยติดตามการประชุม กนง. ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสเห็นการปรับลดดอกเบี้ยลงจากปัจจุบันที่ 2% จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่โตช้า รวมถึงความเสี่ยงจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลกระทบในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ซึ่ง GDP ไทยปี 2025 มีแนวโน้มโตต่ำกว่า 2% นอกจากนี้ยังต้องติดตามการทยอยประกาศกำไร 1Q25 ของฝั่ง Real Sector ว่าจะต่ำกว่าคาดหรือไม่ และจะนำไปสู่การปรับลดประมาณการ EPS ของตลาดลงเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่อยู่ราว 91.50 บาทมากน้อยเพียงใด
เราเน้นลงทุนในกลุ่ม Consumer Staple ที่คาดว่าจะยังเคลื่อนไหวได้แข็งแกร่งกว่าตลาด ส่วนกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยและ Bond Yield ขาลง เช่น ไฟแนนซ์, โรงไฟฟ้า, เทคโนโลยี เป็นต้น
กลยุทธ์:
ยังเน้น Selective Buy หุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 1Q25-2025 แข็งแกร่งและกระทบจำกัดจากภาษีการค้าสหรัฐฯ และเศรษฐกิจชะลอตัว
หุ้นเด่นเดือนเมษายน:
BA, BBL, CPF, HMPRO, OSP
FSSIA Portfolio:
BA, BBL, BTG, CPALL, MTC, NSL, PR9, SEAFCO, SHR
หุ้นเด่นวันนี้:
MTC แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 56 บาท
เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไร 1Q25 ของ MTC ที่คาดยังเติบโตแข็งแกร่งและโดดเด่นกว่ากลุ่ม โดยได้รับการสนับสนุนจากทั้งสินเชื่อที่เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังบริหารจัดการได้ดีต่อเนื่อง
คาดกำไรปกติปี 2025 ที่ 7.1 พันล้านบาท +21% y-y นอกจากนี้คาดได้รับ Sentiment หนุนจากความคาดหวังที่ กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยจากปัจจุบันที่ 2% เหลือ 1.75% ในการประชุมสัปดาห์นี้และมีโอกาสปรับลงอีก 1 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี
แนวรับ 44-43 บาท แนวต้าน 46/48 บาท
Fund Flow:
เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนต่างชาติพลิกมาไหลเข้าภูมิภาคสุทธิ US$944 ล้าน โดยกระจุกตัวที่ไต้หวันและเกาหลีใต้ ประเทศละ US$479-527 ล้าน ขณะที่ฝั่งอาเซียนมีเงินไหลเข้าบางประเทศ เช่น อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์บางๆ ประเทศละ US$6-10 ล้าน แต่ไหลออกจากเวียดนามและสูงสุดที่ไทย US$56 ล้าน
แนวโน้มกระแสเงินทุน:
คาดว่ายังมีแนวโน้มไหลเข้าภูมิภาค แต่จะค่อยๆ ลดลงจากวันก่อน โดยตลาดจับตาดูจีนว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดออกมาบ้าง รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของหลายประเทศในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์
ประเด็นสำคัญวันนี้:
(+) DELTA
กำไรปกติ 1Q25 อยู่ที่ 5 พันล้านบาท +18% q-q, +31% y-y ดีกว่าที่เราคาด 19% และตลาดคาด 35% จากอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าคาด และ SG&A ต่ำกว่าคาด รายได้รวมโตดีหนุนจากฝั่ง AI Power หักล้างการอ่อนตัวลงของกลุ่ม EV ได้ทั้งหมด
ส่วนค่าผู้ใช้จ่ายลดลงจาก Technical service fees -46% q-q เนื่องจากสินค้าขายได้จากตัวที่ Delta Thailand พัฒนาเอง
แนวโน้มรายได้ 2Q25 ยังสดใสต่อ เพราะลูกค้า AI ยังคงเร่งซื้อ แต่ค่าใช้จ่ายยังผันผวนตามนโยบาย Delta Taiwan คงประมาณการทั้งปี 2025 ที่ 1.96 หมื่นล้านบาท ราคาเป้าหมาย 55 บาท แนะนำ “ขาย”
(-) MAGURO
คาดกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 31 ล้านบ. เติบโต 54% y-y แต่ลดลง -10% q-q
คาด SSSG 1Q25 ติดลบ -5.5% y-y เทียบกับ -2.2% y-y ใน 1Q24 จากการบริโภคที่ชะลอตัว รวมถึงค่าใช้จ่ายปรับเพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่
หากกำไร 1Q25 ตามคาดจะคิดเป็น 24% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2025 ที่ 131 ล้านบาท (+36% y-y) แม้คาด SSSG ต่ำกว่าคาด แต่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะสูงกว่าคาด คงราคาเป้าหมาย 24.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(-) SPALI
คาดกำไร 1Q25 ลดลง 76% q-q, -23% y-y เนื่องจากยอดโอนหดตัวและ SG&A สูงขึ้น
แนวโน้ม 2Q25 ฟื้นตัวเล็กน้อยจากการเริ่มโอนคอนโดใหม่ แต่ยังหดตัว y-y
ผู้บริหารมองว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวจะกระทบระยะสั้นต่อยอดขายคอนโดสูง แต่จะฟื้นตัวค่อยๆ ภายใน 3-4 เดือน
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2025-27 ลง 9-22% คาดกำไรปี 2025 ที่ 4.3 พันล้านบาท (-30% y-y) และราคาเป้าหมาย 14.20 บาท
(-) SIRI
คาดกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 647 ล้านบ. ลดลง 48% q-q, 51% y-y จากยอดโอนที่ลดลง
ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2025-27 ลง 6-16% เพื่อสะท้อนการปรับลดสมมติฐานยอดโอนที่ลดลงจากผลกระทบจากแผ่นดินไหวและนโยบายภาษีทรัมป์
คาดกำไรสุทธิปี 2025 ที่ 4.4 พันล้านบาท (-16% y-y) ราคาเป้าหมาย 1.50 บาท และแนะนำ “ถือ”
