หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดว่า SET Index มีโอกาสปรับตัวลงต่อเนื่องเพื่อทดสอบระดับต่ำสุดของวานนี้บริเวณ 1,056 ± จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ยังเป็นลบต่อเนื่อง เนื่องจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เริ่มลุกลาม ล่าสุด สหรัฐฯ ยืนยันจะเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มอีก 50% รวมเป็น 104% หากจีนไม่ยกเลิกมาตรการภาษีตอบโต้ ซึ่งจะมีผลวันนี้เวลา 11.01 น. ตามเวลาประเทศไทย ส่งผลให้เม็ดเงินยังคงไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจชะลอตัวหรือเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยล่าสุดมีการประเมินความน่าจะเป็นอยู่ที่ราว 40-50% และมีโอกาสที่ FED จะลดดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด โดยตลาดประเมินโอกาส 50% ที่ FED จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ค. และคาดว่าจะลดดอกเบี้ยรวม 5 ครั้งภายในปีนี้ จากระดับปัจจุบันที่ 4.25-4.50%
ปัจจัยในประเทศ: ต้องติดตามพัฒนาการเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ หลังวานนี้กระทรวงการคลังเปิดเผย 5 แนวทางในการรับมือ และในวันนี้ต้องติดตามการพิจารณา พ.ร.บ. Entertainment Complex ในสภา
ด้านนโยบายการเงิน: เราคาดว่า กนง. มีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ย 25 bps จากระดับ 2% ในการประชุมปลายเดือนนี้ เพื่อประคองเศรษฐกิจและลดผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน
เรายังแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มวัฏจักร ส่งออก และภาคการผลิต เช่น พลังงาน ปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ อาหารสัตว์เลี้ยง ยาง ฯลฯ
ส่วนกลุ่มที่คาดว่าจะปรับตัวได้แข็งแกร่งกว่าคือ Defensive / Consumer Staple / ภาคบริการ และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง ได้แก่ สื่อสาร การแพทย์ โรงไฟฟ้า IPP ค้าปลีก ไฟแนนซ์
กลยุทธ์:
ยังเน้น Selective Buy หุ้น Domestic ที่แนวโน้มกำไร 1Q25-2025 แข็งแกร่ง และได้รับผลกระทบจำกัดจากเศรษฐกิจชะลอตัว
หุ้นเด่นเดือน เม.ย.: BA, BBL, CPF, HMPRO, OSP
FSSIA Portfolio: BA, BBL, BTG, CPALL, MTC, NSL, PR9, SEAFCO, SHR
หุ้นเด่นวันนี้: CPALL
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 83 บาท
-
- กำไร 1Q25 คาดยังเติบโต y-y จาก SSSG ที่บวกต่อเนื่อง 1-3% ทั้ง 7-Eleven และ CPAXT
- ตั้งเป้า SSSG ทั้งปี +3% ตามแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
- คาดกำไรปี 2025 ที่ 28,000 ล้านบาท +10% y-y
- ธุรกิจได้รับผลกระทบจำกัดจากนโยบายภาษีสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นสินค้าบริการจำเป็น
- แนวรับ 46.75 บาท แนวต้าน 48.75-49.25//51 บาท
Fund Flow:
- วานนี้ ต่างชาติไหลออกสุทธิจากภูมิภาค US$1,742 ล้าน
- ไต้หวัน US$887 ล้าน
- เกาหลีใต้ US$483 ล้าน
- อินโดนีเซีย US$228 ล้าน (สูงสุดในอาเซียน)
- แนวโน้มยังคงเป็นทิศทางไหลออกจากความกังวลเรื่องภาษีตอบโต้ระหว่างสหรัฐฯ-จีน
ประเด็นสำคัญวันนี้:
(-) ปรับลด SET Target เหลือ 1,180 จุด (อิง EPS 84 บาท และ PER 14 เท่า)
หากใช้ PER ต่ำสุดช่วงโควิดที่ 12.2 เท่า ดัชนีอาจลดลงถึง 1,025 จุด ใกล้เคียง Book Value ปี 2025 (P/BV ราว 1 เท่า)
=> มองว่าเป็นโอกาสสะสมหุ้น Domestic และ Defensive
(+) กลุ่มอสังหาฯ ได้อานิสงส์
- ครม. อนุมัติลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 7 ล้านบาท ถึง 30 มิ.ย. 2026
- ผู้ได้ประโยชน์: SPALI, AP (สต็อกบ้านในช่วงราคานี้มากที่สุด)
- หนุนตลาดควบคู่กับเกณฑ์ LTV ใหม่ 1 พ.ค.
- แต่กำลังซื้อยังอ่อน และปล่อยสินเชื่อยังเข้มงวด => งบกลุ่มอสังหาฯ 1Q25-2Q25 ยังไม่สดใส
(-) ASK เผชิญความท้าทายสูงขึ้น
- รายได้มีแรงกดดัน
- ต้นทุนความเสี่ยงและ NPL สูงใกล้ 8.5%
- กำไรต่อหุ้นและ ROE ลดลงจากการเพิ่มทุน PPO (3:1 ที่ 7 บาท)
- คาดกำไรสุทธิปี 2025 ลดลง 45% y-y
- ปรับลดคำแนะนำเป็น “Reduce” ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท